วิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย: Best Practices
พิทักษ์ โสตถยาคม
จากการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย
ครั้งที่ ๑/ ๒๕๕๖ ในวันพุธที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๖ ณ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
(วช.) ทำให้ได้รับรู้หลักเกณฑ์การตัดสินรางวัลด้านการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย
ประจำปี ๒๕๕๖ ซึ่งถือเป็นรางวัลระดับชาติที่มีหลักเกณฑ์การพิจารณาที่มีความเฉพาะเจาะจง
และมุ่งเน้นวิธีวิจัยเชิงปริมาณเป็นพิเศษ
ในปีนี้
ฝ่ายบริหารทางวิชาการศูนย์วิจัยและพัฒนาพฤติกรรมไทย (ศวพท.) ได้ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกและตัดสินผลงานวิจัยให้ได้รับรางวัลด้านการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทยเรียบร้อยแล้ว
และมีผลงานวิจัยผ่านเกณฑ์ให้ได้รับรางวัล จำนวน ๕ เรื่อง เพื่อเสนอให้คณะกรรมการแห่งชาติมีมติอนุมัติผลการพิจารณา
ซึ่งคณะกรรมการได้มีมติอนุมัติรางวัลผลงานด้านการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทยตามที่เสนอ
ซึ่งถือเป็น Best Practices ของการวิจัยด้านจิตพฤติกรรมศาสตร์ในปีนี้
ดังนี้
อ้างอิง ศูนย์วิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย. (๒๕๕๖). การตัดสินรางวัลผลงานด้านการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย ประจำปี ๒๕๕๖. เอกสารประกอบการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย (คพท.) วันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๖.
ประเด็นที่น่าสนใจสำหรับนักวิจัย
ก็คือ เหตุผลของงานวิจัยที่ผ่าน และไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณา ขั้นที่ ๑
เพื่อเข้ารับการประเมินรางวัลด้านการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย
ซึ่งฝ่ายบริหารทางวิชาการ ศวพท. ได้เน้นว่า
รางวัลด้านวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทยนี้ เป็นเพียง ๑ ในกว่า ๑๐
รางวัลที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
กำหนดขึ้นเพื่อพิจารณามอบให้กับนักวิจัยทั่วประเทศ สำหรับผู้ที่จะเข้าเกณฑ์ได้รางวัลนี้
จะต้องเป็นงานวิจัยสหวิชาการทางจิตพฤติกรรมศาสตร์ เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณ
มีรูปแบบการวิจัยเหมาะสมที่เป็นงานวิจัยศึกษาความสัมพันธ์เปรียบเทียบหรืองานวิจัยเชิงทดลอง
เป็นต้น ซึ่งเหตุผลเบื้องหลังของผลงานวิจัยที่ผ่านและไม่ผ่านเกณฑ์ มีรายละเอียดดังนี้
อ้างอิง ศูนย์วิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย. (๒๕๕๖). เกณฑ์การประเมินผลงาน ขั้นที่ ๑. เอกสารประกอบการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย (คพท.) วันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๖.
ส่วนเหตุผลของผลงานวิจัยที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาจากขั้นที่
๑ และผ่านเกณฑ์การพิจารณาในขั้นที่ ๒ ถือว่าเป็นงานวิจัยที่ได้รับรางวัล
จะเป็นงานวิจัยที่มีคุณสมบัติเบื้องต้นครบถ้วน เป็นแบบอย่างได้
และมีคุณสมบัติเด่นเป็นพิเศษ ดังนี้
อ้างอิง ศูนย์วิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย. (๒๕๕๖). เหตุผลโดยรวมเกี่ยวกับงานวิจัยที่ได้รับรางวัล. เอกสารประกอบการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย (คพท.) วันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๖.
นอกจากนั้น
คณะกรรมการพิจารณาผลการวิจัยยังได้สรุปเหตุผลโดยรวมของผลงานวิจัยที่ไม่ได้รับรางวัล
แม้จะผ่านการพิจารณาในขั้นที่ ๑ มาแล้ว
โดยจะขาดคุณสมบัติของการเป็นงานวิจัยที่เป็นแบบอย่างที่ดี จำนวน ๙ ด้าน ดังนี้
อ้างอิง ศูนย์วิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย. (๒๕๕๖). เหตุผลโดยรวมเกี่ยวกับงานวิจัยที่ไม่ได้รับรางวัล. เอกสารประกอบการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย (คพท.) วันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๖.
สะท้อนคิด:
เมื่อได้เห็นหลักเกณฑ์และการพิจารณาตัดสินรางวัลด้านการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทยแล้ว
ก็จะพบว่า จะมีงานวิจัยที่เข้ามาตรฐานตามแนวทางของศูนย์วิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย
(ศวพท.) ไม่มากนัก การเพิ่มจำนวนงานวิจัยที่มีคุณภาพ
จำเป็นต้องสร้างนักวิจัยที่มีความสามารถทำวิจัยศึกษาความสัมพันธ์เปรียบเทียบ หรืองานวิจัยเชิงทดลองได้
และมุ่งเน้นงานวิจัยเชิงปริมาณ
แต่ก็มีข้อท้วงติงในกระบวนทัศน์การวิจัยจากกรรมการคนอื่นอยู่เสมอว่า
ไม่อยากให้จำกัดอยู่เพียงงานวิจัยเชิงปริมาณ ควรเปิดรับงานวิจัยเชิงคุณภาพ
หรืองานวิจัยแบบผสมผสานด้วย
ซึ่งก็จะทำให้มีผลงานวิจัยสามารถเข้าสู่ลู่การพิจารณารางวัลด้านการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทยมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม จุดยืนของ ศวพท. ได้ยึดกระบวนทัศน์การวิจัยเชิงปริมาณมาอย่างต่อเนื่อง
เคร่งครัด และมีความเข้มแข็งทางวิชาการเทียบระดับมาตรฐานสากล ดังนั้น จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะมีการปรับเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น
ดังนั้น
หนทางที่เป็นไปได้คือ ขยายองค์ความรู้ด้านระเบียบวิธีการวิจัยไปสู่นักวิชาการ
นักวิจัยในองค์กร/ หน่วยงานต่างๆ ให้ได้มากขึ้น โดย ศวพท.
เป็นโค้ชและเพื่อนร่วมทางพัฒนาข้อเสนอการวิจัย ดำเนินการวิจัย และสะท้อนผลเติมเต็มให้นักวิจัยอย่างต่อเนื่อง
-------------------------------------